การฉีดผิวขาว ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีที่สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าวิธีการในธรรมชาติหลายเท่า ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาฉีดผิวขาวกันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ยังมีคำถามจากหลายคนว่า ฉีดผิวขาว ร้อยเอ็ด ขาวจริงไหม ส่งผลอย่างไร ทำกี่ครั้งเห็นผล อยู่ได้กี่เดือน บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) มีคำตอบค่ะ

• ฉีดผิวขาว ดีกว่าวิธีธรรมชาติอย่างไร
• สาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำ หมอง
• ฉีดผิวขาว vs วิธีธรรมชาติ แบบไหนดีกว่ากัน
• ดริปผิวครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร
• ฉีดผิวขาว ร้อยเอ็ด ที่ไหนดี
• รีวิวจากผู้ใช้บริการที่ Wandee clinic
• ฉีดผิวขาว ร้อยเอ็ด น่ากลัวมั้ย

สาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำหมอง

ปัจจุบันสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำหมองนั้นมีเยอะมาก ซึ่งเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยหลักที่สามารถพบได้มาจากการใช้ชีวิตประจำวันเป็นปัจจัยหลัก ได้แก่

การอยู่ท่ามกลางแสงแดด

การตากแดดนั้นเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิวคล้ำหมองได้ เพราะการตากแดดนั้นโดนรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยตรง ซึ่งรังสียูวีนี้จะเข้าไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน และมีจุดด่างดำนั่นเอง

สภาพอากาศ 

ยิ่งในสภาพอากาศที่มีความเย็น อย่างเช่นการอยู่ในห้องแอร์ที่มีความเย็นจัด ซึ่งความเย็นนี้จะดูดซับความชุ่มชื้นออกไปจากผิว ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน เป็นสาเหตูที่ทำให้หน้าหมองได้ ยิ่งหากผิวมีความแห้งมาก ๆ อาจจะทำให้ผิวเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ผิวแตก ผิวลอก ผื่นคัน หรือผิวหนังอักเสบได้

การดื่มน้ำไม่เพียงพอ

ปัญหาของการดื่มน้ำไม่เพียงพอนี้ เป็นปัญหาหลักของหลายคน ซึ่งหากร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ จะส่งผลให้ผิวไม่มีน้ำไปเลี้ยงเซลล์ใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดการขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้านและดูหมองคล้ำได้

ความเครียด

เนื่องจากเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นตัวที่ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นจนทำให้เกิดสิวนั่นเอง

ไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

การทาครีมกันแดดไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า หรือบริเวณร่างกาย ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะการทาครีมกันแดดนั้น จะช่วยให้ผิวสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) น้อยลง จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำเพื่อเป็นตัวช่วยให้ผิวคล้ำช้าลง ทั้งนี้ แม้จะไม่ได้ออกไปเผชิญกับแดดโดยตรงก็ควรทาเช่นกัน เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตสามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาทำร้ายผิวของเราได้เช่นกัน

การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน

เป็นปัจจัยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ เพราะการทำงานที่หน้าจอคอมหรือโทรศัพท์นั้น จะมีการปล่อยแสงสีฟ้าออกมา ซึ่งจะมีความยาวคลื่นสั้นในช่วง 400 – 500 นาโนเมตร ความคลื่นสั้นเหล่านี้ สามารถทะลุเข้าเซลล์ผิวได้ จึงเป็นปัจจัยที่นำมาสู่การทำร้ายผิวได้

ฉีดผิวขาว vs วิธีธรรมชาติ แบบไหนดีกว่ากัน

ในปัจจุบันคนหันมาสนใจตัวเองกันมากขึ้น เพราะเป็นยุคที่รูปร่างหน้าตาถือเป็นเรื่องสำคัญทั้งในโลกออนไลน์และโลกภายนอก คนจึงมองหาหัตถการที่สามารถเห็นผลเร็ว มาเปรียบเทียบกันค่ะ ว่าวิธีไหนเห็นผลได้ดีกว่ากัน

• การทาครีม

เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี ทั้งยังมีครีมสูตรที่ผสม Vitamin ชนิดต่าง ๆ เป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยใหผิวขาว กระจ่างใสอีกด้วย จึงทำให้เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำเป็นประจำและต่อเนื่อง เพื่อให้ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและน่าพอใจ

• ทาครีมกันแดด

เป็นวิธีที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างมาก เพราะการทาครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ได้ดีที่สุด โดยจะช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง ทั้งยังช่วยไม่ให้ผิวคล้ำเสียจากแดดได้

• การขัดผิว หรือสปาผิว

วิธีการนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผิวขาวได้เช่นกัน เพราะการขัดผิวจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ขึ้น ทั้งยังช่วยในเรื่องลดการสะสมของสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน ทำให้วิธีนี้สามารถลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวสะอาดขึ้น ซึ่งข้อดีของวิธีการนี้ คือ ทำควบคู่กับการทาครีมจะเห็นผลได้ดีขึ้น แต่ข้อเสียคือ หากมีการทำย้ำบ่อยครั้ง หรือ ขัดแรง ๆ อาจจะทำให้แสบผิว เกิดแผลได้ นอกจากนั้น อาจจะเกิดอาการแพ้ มีผื่นคันได้

• การทานวิตามินผิวขาว

วิธีการนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริง เพราะการทานยาที่มีวิตามินหรือส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องผิวขาว เข้าไปฟื้นฟูผิวได้เร็ว และหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อได้ง่าย สามารถซื้อได้ทุกที่ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องทานยาที่มีมาตรฐาน ผ่าน อย. เพื่อความปลอดภัยของผู้ทานเอง และการทานยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ และต้องมีการทานเป็นระยะเวลาหลายเดือนจึงจะเห็นผล 

• การฉีดผิวขาว

การฉีดผิวขาว เป็นหัตถการที่คนส่วนใหญ่เลือกทำในปัจจุบัน เพราะเป็นการฉีดเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง คล้ายกับการให้น้ำเกลือ ทำให้เห็นผลเร็ว ทั้งยังมีวิตามินหลากหลายชนิดในกระปุกเดียว ทั้งยังมีการดูแลจากแพทย์โดยตรงอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมิน การรักษา และการติดตามผล ทำให้มั่นใจในเรื่องคุณภาพได้อย่างแน่นอน ทั้งยังไม่มีผลข้างเคียงหลังทำเสร็จอีกด้วย